ยานสำรวจที่ถูกส่งไปทำภารกิจโคจรรอบดวงอาทิตย์ สามารถถ่ายรูปดาวฤกษ์สีแดงดวงนี้ในระยะใกล้ที่สุดเท่าที่เคยทำมาได้สำเร็จ โดยมีการแพร่ภาพเมื่อ 16 ก.ค.
เมื่อ 16 ก.ค.63 สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ภารกิจส่งยานสำรวจโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง องค์กรบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐฯ กับ สำนักงานอวกาศยุโรป (อีเอสเอ) โดยยานโคจรรอบดวงอาทิตย์ ‘โซลาร์ ออร์บิเทอร์’ (Solar Orbiter: SolO) ถูกส่งออกจากโลกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และลอยผ่านดวงอาทิตย์ในระยะใกล้เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายน ซึ่งอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ 10 อย่างบนยานลำนี้ สามารถบันทึกภาพและข้อมูลของดวงอาทิตย์เอาไว้ได้
ภาพดังกล่าวซึ่งได้รับการเผยแพร่ออกมาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.ค. 2563 ถ่ายที่ระยะห่างจากดวงอาทิตย์ราว 77 ล้านกิโลเมตร ซึ่งอยู่ใกล้ดาวฤกษ์ดวงนี้มากกว่าวงโคจรของดาวพุธและดาวศุกร์เสียอีก นอกจากนี้ภาพถ่ายยังแสดงให้เห็น ‘เปลวไฟ’ (flare) อยู่ทั่วพื้นผิวของดวงอาทิตย์ โดยมีขนาดเล็กราว 1 ใน 1,000,000 ของ ‘เปลวสุริยะ’ (Solar flare) ปกติที่กล้องโทรทรรศน์บนโลกเคยจับภาพได้ด้วย
ดร. เดวิด ลอง ซึ่งมีส่วนร่วมในภารกิจยานโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งนี้ด้วย เผยว่า นักวิทยาศาสตร์เรียกเปลวไฟนี้ว่า ‘แคมป์ไฟร์’ ซึ่งพวกเขายังไม่รู้แน่ชัดว่ามันคืออะไร แต่คาดว่ามันอาจมีบทบาทสำคัญในปรากฏการณ์ลึกลับที่เรียกว่า ‘coronal heating’ ที่ทำให้ชั้นบรรยากาศชั้นนอกของดวงอาทิตย์ ซึ่งเรียกว่า coronal มีอุณหภูมิสูงกว่าพื้นผิวชั้นล่าง 200-500 เท่า ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการตรวจวัดอุณหภูมิของแคมป์ไฟร์นี้ จะทำให้พวกเขาทราบข้อมูลมากขึ้น
นอกจากรูปถ่ายแล้ว อุปกรณ์ 4 อย่างของยานโคจรรอบดวงอาทิตย์ยังช่วยวัดสภาพแวดล้อมในอวกาศรอบตัวยานขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านดวงอาทิตย์ด้วย “จนถึงตอนนี้ข้อมูลของเราเปิดเผยเรื่องเหตุการณ์ คลื่นกระแทก, การปลดปล่อยมวลของดวงอาทิตย์ (coronal mass ejections), ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ‘switchbacks’ และคลื่นสนามแม่เหล็ก ที่เราเห็นได้ด้วยอุปกรณ์อันยอดเยี่ยมของเราเท่านั้น” ศ. ทิม เฮอร์บิวรี จากราชวิทยาลัยลอนดอน และหนึ่งในทีมภารกิจยานโคจรรอบดวงอาทิตย์ กล่าว
ทั้งนี้ โซลาร์ ออร์บิเทอร์ เป็นภารกิจแรกที่ภ่ายภาพขั้วเหนือและขั้วใต้ของดวงอาทิตย์ ซึ่งอาจทำให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจสนามแม่เหล็กอันทรงพลังของดาวฤกษ์ดวงนี้ และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโลก โดยการทำความเข้าใจสนามแม่เหล็กของดวงอาทิตย์กับลมสุริยะเป็นกุญแจสำคัญ เพราะพวกมันทำให้เกิดสภาพอวกาศ (space weather) ซึ่งส่งผลกระทบกับโลก เช่น ขัดขวางเครือข่ายสัญญาณต่างๆ, ระบบสื่อสาร และกระทบต่อนักบินอวกาศบนสถานีอวกาศนานาชาติด้วย
ยาน โซลาร์ ออร์บิเทอร์ ซึ่งจะทำภารกิจโคจรรอบดวงอาทิตย์นาน 7 ปี จะเข้าใกล้ดาวฤกษ์ดวงนี้ในระยะใกล้ที่สุดที่ 41.8 ล้านกิโลเมตร ท้าทายความร้อนแรงของดวงอาทิตย์ ด้วยเกราะไททาเนียมเคลือบด้วยแคลเซียม ฟอสเฟต ทำให้ทำความร้อนได้สูงสุด 970 องศาฟาเรนไฮต์
อ่านเพิ่มเติม...
"ผิว" - Google News
July 17, 2020 at 03:31AM
https://ift.tt/3javuBc
นาซาเผยภาพ 'ดวงอาทิตย์' ใกล้สุดที่เคยถ่ายได้ พบเปลวไฟปริศนาทั่วพื้นผิว - ไทยรัฐ
"ผิว" - Google News
https://ift.tt/2XmUw7i
No comments:
Post a Comment